ลำปาง: เมื่อวันที่ ๑๗ พฤศจิกายน ๒๕๕๗ เวลา ๘.๓๐ น. ที่ผ่านมา บรรณารักษ์ ห้องสมุดประชาชนอำเภอแจ้ห่มร่วมประชุมเชิงปฏิบัติการจัดทำแผนการส่งเสริมการอ่าน ณ สำนักงาน กศน.จังหวัดลำปาง ตำบลบ่อแฮ้ว อำเภอเมือง จังหวัดลำปาง บรรณารักษ์จากห้องสมุดประชาชนอำเภอทั่วลำปางเข้าร่วมถกทิศทางส่งเสริมการอ่านปีงบ ๕๘

นายคเชนทร์ มะโนใจ ผู้อำนวยการ สำนักงาน กศน.จังหวัดลำปาง กล่าวถึงทิศทางการส่งเสริมการอ่านแก่บรรณารักษ์ว่า ท่านเลขาธิการ กศน.มีนโยบายให้จัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านเพื่อเทิดพระเกียรติสมเด็จพระเทพฯ เนื่องในโอกาสฉลองพระชนมายุครบ ๕ รอบ ๒ เมษายน ๒๕๕๘ นี้ โดยจะมีการจัดกิจกรรมส่งเสริมการอ่านในระดับจังหวัดซึ่งรอความชัดเจนอีกที ทั้งยังเน้นให้ห้องสมุดทุกแห่งนำหลักการบริหารจัดการห้องสมุด ๓ ดี มาใช้ กล่าวคือ มีหนังสือสื่อที่ดี ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้บริการ มีบรรยากาศดี สะอาดน่าใช้บริการ และมีบรรณารักษ์ดี มีใจบริการรักการอ่านและมีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีกับผู้ใช้บริการทุกเพศทุกวัย ซึ่งเป็นการสร้างความประทับใจแก่ผู้ใช้บริการ
ส่วนแนวทางการพัฒนาบ้านหนังสืออัจฉริยะนำร่องแต่ละอำเภอ ผอ.อำเภอ ครูทุกคนที่อยู่ในหมู่บ้านที่มีบ้านหนังสืออัจฉริยะ ต้องช่วยกันดูแล ทำให้ชาวบ้านเห็นคุณค่าของบ้านหนังสืออัจฉริยะที่จะนำข่าวสารความรู้สู่ชุมชน สำคัญ คือ เน้นการมีส่วนร่วมของชุมชน ผ่านกลุ่มแกนนำชุมชน กรณีการรับส่งหนังสือพิมพ์ควรให้ชาวบ้านมารับเอง ครู กศน.ตำบล และบรรณารักษ์ คอยให้การหนุนเสริมในบางเรื่องบางโอกาส ครู กศน.ที่อยู่ในหมู่บ้านที่มีบ้านหนังสืออัจฉริยะก็ควรมีน้ำใจนำหนังสือไปส่งให้ เราต้องทำให้หนังสือเดินทางไปสู่ชุมชนเป็นปัจจุบันที่สุด และที่ต้องขบคิดกันอย่างจริงจังก็คือ ทำอย่างไรให้นักศึกษา กศน.ไปใช้บริการบ้านหนังสืออัจฉริยะ ในแต่ละปีนักศึกษาควรจะยืมหนังสือจากห้องสมุดประชาชนคนละกี่เล่ม ต้องทำให้นักศึกษาใช้ห้องสมุดเป็น และนักศึกษาทุกคนต้องเป็นสมาชิกห้องสมุดประชาชน ตลอดถึงการจัดซื้อหนังสือควรสำรวจความต้องการของผู้ใช้บริการ อย่าใช้ระบบเปอร์เซ็นต์มันโบราณล้าสมัยแล้ว ควรซื้อหนังสือที่คนอ่านจริง ๆ

นอกจากนี้ บรรณารักษ์แต่ละอำเภอยังถกถึงแผนส่งเสริมการอ่านประจำปีงบประมาณ ๒๕๕๘ พร้อมๆ กับการทบทวนงานเก่า การสะท้อนปัญหาการในการปฏิบัติงาน อาทิ การจัดซื้อหนังสือสู่ห้องสมุดที่ไม่ตรงกับความต้องการของผู้ใช้บริการ ปัญหาการจัดเก็บสถิติผู้ใช้บริการในห้องสมุดและบ้านหนังสืออัจฉริยะ ซึ่งหลายกรณีเกิดจากผู้ใช้บริการไม่ยอมลงชื่อใช้บริการ ทำให้สถิติไม่ตรงตามความเป็นจริง ปัญหาความล่าช้าในการส่งมอบหนังสือสู่บ้านหนังสืออัจฉริยะ พบว่าเป็นปัญหาเรื้อรังมาแต่ต้น หลายชุมชนยังมองไม่เห็นความสำคัญของบ้านหนังสืออัจฉริยะ เป็นหน้าที่ของ กศน.อำเภอ ต้องไปคิดต่อ ทบทวนงานมวลชน เราเข้าถึงแกนนำมากน้อยเพียงใด และชาวบ้านเองเข้าใจหลักการบ้านหนังสืออัจฉริยะโดยตลอดหรือไม่ เชื่อว่าการมีเวทีพูดคุยกับชุมชนเป็นทางออกที่ดี และ สำนักงาน กศน.เองก็ควรมีการเสริมแรงจัดประกวดบ้านหนังสือระดับจังหวัด ระดับประเทศ ประกาศเกียรติคุณผู้มีจิตอาสาดูแลบ้านหนังสืออัจฉริยะให้ขจรขจาย สู่สายตามหาชน ซึ่งแจ้ห่มได้ประเดิมในระดับอำเภอแล้ว ส่วนตัวเห็นว่า บ้านหนังสืออัจฉริยะนี่เองที่เป็นคำตอบการส่งเสริมการอ่านรับอาเซียน...????